โรคอ้วน ที่คนส่วนใหญ่เป็น และแนวทางการแก้ไข

โรคอ้วน (Obesity) เป็นสภาวะที่มีการสะสมของไขมันในร่างกายเกินมาก ซึ่งส่วนมากเกิดจากการบริโภคพลังงานมากเกินไปและการใช้พลังงานน้อยเกินไป ซึ่งส่งผลให้มีการเกิดภาวะที่น้ำหนักมากกว่ามาตรฐานที่ถูกต้องสำหรับส่วนสูงของร่างกาย (Body Mass Index or BMI)

 

ปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคอ้วนได้แก่

1.การบริโภคพลังงานมากเกินไป: การกินอาหารที่มีพลังงานมากเกินไปส่งผลให้มีการสะสมไขมันในร่างกาย

2.การนั่งนอนและไม่เคลื่อนไหว: การนั่งทำงานนานหรือไม่มีกิจกรรมทางกายเพียงพอสามารถเป็นปัจจัยที่ส่งผลให้เกิดโรคอ้วน

3.พันธุกรรม: สายพันธุ์ที่มีความชุกชุมสูงในเรื่องของการสะสมไขมันอาจมีโอกาสเป็นโรคอ้วนมากขึ้น

4.สภาพจิต: ความเครียดและภาวะซึมเศร้าอาจมีผลให้คนมีนิสัยการกินที่มากขึ้น

5.สภาพแวดล้อม: ตัวเมืองที่ไม่มีพื้นที่สำหรับการออกกำลังกายหรือการเข้าถึงอาหารที่ไม่สมบูรณ์อาจมีส่วนในการเพิ่มความเสี่ยงของโรคอ้วน

 

โรคอ้วนสามารถทำให้เกิดภาวะสุขภาพที่แย่เช่น โรคหัวใจ, เบาหวาน, ความดันโลหิตสูง, และมะเร็งบางประการได้ ดังนั้นการรักษาและป้องกันโรคอ้วนมีความสำคัญ เช่น การดูแลสุขภาพโดยการออกกำลังกาย, การควบคุมอาหาร, และการตรวจสุขภาพประจำ หากคุณหรือใครบางคนมีปัญหาเกี่ยวกับน้ำหนักหรือโรคอ้วน, ควรพบแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญทางโรคภัยได้เพื่อรับคำแนะนำและการรักษาที่เหมาะสม

 

แนวทางการแก้ไข

การแก้ไขปัญหาโรคอ้วนมีหลายแนวทางและต้องการความพยาบาลในด้านการกิน, การออกกำลังกาย, และพฤติกรรมทั่วไป นี่คือแนวทางบางประการที่สามารถช่วยในการแก้ไขปัญหาโรคอ้วน

 

1.ควบคุมการบริโภคพลังงาน

-ปรับเปลี่ยนการกิน: เลือกอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพและลดปริมาณอาหารที่มีแคลอรีสูง

-การควบคุมส่วนสูง: เรียนรู้วิธีคำนวณและควบคุมส่วนสูงของอาหารเพื่อลดการบริโภคพลังงาน.

2.การออกกำลังกาย

-เริ่มต้นทำกิจกรรมทางกาย: เพิ่มการเคลื่อนไหวในชีวิตประจำวัน, เช่น เดินขึ้นบันได, การเดินทางด้วยการใช้จักรยาน, หรือการวิ่ง

-ออกกำลังกายสม่ำเสมอ: ทำกิจกรรมทางกายอย่างสม่ำเสมอ, อย่างน้อย 150 นาทีต่อสัปดาห์, เพื่อรักษาน้ำหนักและสุขภาพทั่วไป

3.เปลี่ยนพฤติกรรม

-ติดตามและบันทึกกิจกรรมทางกายและการกิน: การเฝ้าระวังพฤติกรรมการกินและการเคลื่อนไหวช่วยให้คุณรับรู้และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมได้

-ตั้งเป้าหมาย: กำหนดเป้าหมายที่เป็นไปได้และมีระยะเวลา, เพื่อให้คุณมีแรงจูงใจในการดำเนินการ

4.การรับคำปรึกษาและสนับสนุน

-ปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญทางโรคภัย: พบแพทย์, พยาบาล, หรือผู้เชี่ยวชาญทางโรคภัยเพื่อรับคำแนะนำทางการแพทย์

-รับการสนับสนุนจากครอบครัวและเพื่อน: การมีระบบสนับสนุนจากครอบครัวและเพื่อนช่วยให้คุณรู้สึกไม่เดี่ยวดายในการแก้ไขปัญหานี้

 

การแก้ไขโรคอ้วนเป็นกระบวนการที่ต้องใช้เวลาและความพยาบาล ควรระมัดระวังและทำการแก้ไขอย่างต่อเนื่องเพื่อรักษาน้ำหนักที่เหมาะสมและสุขภาพที่ดี. แนะนำให้หาคำปรึกษาจากทีมทางการแพทย์และผู้เชี่ยวชาญทางโรคภัยเพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสมสำหรับสุขภาพของคุณ

 

สนับสนุนโดย    hoiana เวียดนาม

ความอ้วนส่งผลให้ข้อเข่าเสื่อมได้จริงหรือ?

โรคข้อเข่าเสื่อม

เป็นโรคที่ผิวข้อกระดูกอ่อนเกิดการสึกหรอ สึกกร่อน เกิดอาการอักเสบ ปวด บวมเเดงร้อนที่ข้อเข่า เข่าโก่ง สุดท้ายจะเจ็บเข่ามาก จนเดินไม่ได้ เราพบว่า โรคข้อเข่าเสื่อม นั้น มีปัจจัย มากมายหลายอย่างที่กระตุ้น ทำให้เป็น
โรคนี้เร็วขึ้น เเละมากขึ้น หนึ่งในนั้นที่คนไทยมีกันมาก ก็คือ ความอ้วนครับ

มีการวัดค่าความอ้วนได้หลายอย่าง

ซึ่งผมคงไม่ต้องบอกนะครับว่า อย่างไร ถึงจะเรียกว่า อ้วน คุณน่าจะเป็นคนที่รู้ดีที่สุด มีข้อมูลที่น่าสนใจมากเกี่ยวกับความอ้วนหลายอย่าง โดยเฉพาะความอ้วนที่เกี่ยวข้องกับโรคข้อเข่าเสื่อม

ความอ้วนถูกจัดให้เป็นปัจจัยหนึ่งที่โดดเด่นที่ก่อให้โรคข้อเข่าเสื่อม

โดยเฉพาะในเพศหญิง ถ้ามีน้ำหนักตัวเกินด้วยเเล้วทำให้มีโอกาสเกิดโรคนี้ถึง 9 เท่า ความอ้วนนอกจากจะเป็นตัวเร่งให้เกิดข้อเข่าเสื่อมเร็วขึ้นในวัยหนุ่มสาวเล้วยังทำให้โรคลุกลามได้ไวมากขึ้นเเละยังมีผลทำให้ผลของการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมไม่ดีเท่าคนน้ำหนักปกติครับ

ในสมัยก่อน

เราอาจจะเข้าใจว่า สาเหตุของความอ้วนไม่ใช่อยู่ที่พฤติกรรมการทานอาหารที่ผิดปกติเท่านั้น เเต่ในปัจจุบันเราค้นพบว่า เกิดจากการถ่ายทอดตามกรรมพันธุ์เสียด้วย โดยเฉพาะมีมากกว่า 400 ยีนส์ที่เดียวครับ เเต่เป็นที่ยืนยันเเล้วว่า ยีนส์เหล่านี้ไม่ได้ทำให้เป็นโรคข้อเข่าเสื่อมมากขึ้นครับ

เวลาเดินในเเต่ละก้าว

จะมีเเรงที่มากดที่ข้อเข่าของคนอ้วนมากกว่าคนไม่อ้วนครับ นอกจากนั้นบางคนยังเชื่อว่า ข้อเข่าที่มีเนื้อเยื่อไขมันมากๆ จะล้นไปกดเเละทำลายผิวกระดุกอ่อนที่อยู่ใกล้ๆ กัน ทำให้ไปเร่งในการเป็นข้อเข่าเสื่อมเร็วขึ้น

เมื่อความอ้วนทำให้เป็นข้อเข่าเสื่อมเร็วขึ้น

ก็มีนักวิทยาศาสตร์คิดในทางตรงกันข้ามครับว่าถ้าเราลดน้ำหนักลงจะทำให้ข้อเข่าเสื่อมดีขึ้น หรือไม่ ในปี 1997 มีนักวิทยาศาสตร์วิจัย เเเละพบว่า สำหรับเพศหญิงที่มี
ความสูงตามปกติทั่วไป ทุกๆ น้ำหนักตัวที่หายไป11 ปอนด์ หรือประมาณ
5 กิโล ความเสี่ยงในการเป็นโรคข้อเข่าเสื่อมจะหายไปมากว่า 50% ทีเดียวครับ นอกจากนั้นยังพบว่า การลดน้ำหนักเพียงอย่างเดียว จะสามารถลดอาการปวดข้อเข่าได้ โดยไม่ต้องทานยาเเก้อักเสบที่มีผลข้างเคียง

ทุกๆ น้ำหนักตัวที่ลดลง 1 กิโล

จะไปลดน้ำหนักที่กดลงบนข้อเข่า 4 กิโลในเเต่ละก้าวที่เราก้าวเดินครับหรือลดลง 3000 กิโลกรัม ต่อการเดินไกล 1 กิโลเมตร ในเเต่ละวันคนเราอาจจะเดินถึงวันละ 1.5 กิโลเมตร นั่นก็หมายความว่าจะมีการลดเเรงกระเเทกที่หัวเข่าอย่างมากมายมหาศาลในคนที่สามารถลดน้ำหนัดลงเเค่ 1 กิโลกรัม

เเต่ในบางคนที่ลดน้ำหนักไม่ได้

ก็ไม่ต้องกลุ้มใจครับ เเต่ให้ใช้วิธีการควบคุม น้ำหนักตัวเเทน โดยพยายามควบคุมน้ำหนักตัวเเทนไม่ให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นในเเต่ละปีครับส่วนคนที่น้ำหนักตัวเกินมาก เเละไม่สามารถลดน้ำหนักลงได้ก็จำเป้นต้องเเก้ไข ปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ ที่มีอยู่มากมายหลายข้อทดเเทนกันครับ

ตัวอย่างเช่น

นักกีฬาซูโม่ ของญี่ปุ่น มีน้ำหนักมากมาย หลายร้อยกิโลครับ เวลาป่วยเป็นโรคเเต่ละครั้ง ก็จะไปพบเเพทย์ที่โรงพยาบาลที่ทางประเทศญี่ปุ่น จัดไว้ให้โดยเฉพาะที่คนทั่วไป ไม่มีสิทธิในการเข้าไปรักษา มีการรวบรวมสถิติทางการเเพทย์เกี่ยวกับความเจ็บป่วยของนักกีฬาซูโม่ว่าเกี่ยวข้องกันกับน้ำหนักตัวที่มากมายมหาศาลหรือไม่พบข้อมูลที่น่าสนใจหลายเรื่องครับ เช่น น้ำหนักตัวที่มากมายของซูโม่ไม่ได้ทำให้ ประชากรซูโม่นั้นมีโอกาสเป็นข้อเข่าเสื่อม มากกว่า คนทั่วไปทำไมถึงเป็นเช่นนั้นครับ เพราะข้อมูลส่วนอื่นๆ ทั่วไป ล้วนบ่งชี้ว่าความอ้วนนั้นเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดโรคข้อเข่าเสื่อมมากขึ้น

เหตุผลที่เป็นเช่นนี้

ก็เพราะว่า ถึงเเม้ซูโม่ จะมีน้ำหนักตัวมากกว่าคนปกติเเต่กล้ามเนื่อข้อเข่าของซูโม่ ก็เเข็งเเรงมากกว่า คนปกติหลายเท่าด้วยกล้ามเนื้อที่เเข็งเเรงนี้ จึงไปชดเชยปัจจัยด้อยของน้ำหนักตัวที่มากเกินส่งผลทำให้ ไม่เป็นโรคข้อเข่าเสื่อมมากกว่าคนปกติครับ

ถ้าท่านมีกล้ามเนื้อรอบหัวเข่าไม่เเข็งเเรง

เเล้วยังคงตามใจปาก ปล่อยเนื้อปล่อยตัว ทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นทุกปีท่านก็อาจจะเป็นคนคนหนึ่งครับ ที่ต้องเสียเวลาในชีวิตเหลืออยู่ต่อสู้กับโรคข้อเข่าเสื่อมที่มาเร็วกว่า คนปกติโดยสุดท้ายก็อาจจะต้องถูกผ่าตัดเปลี่ยนข้อเทียมโดยที่ไม่ทันตั้งตัวครับสบายกายคลายปวดเข่าครับ