ทำอย่างไรถึงจะลดไขมันล่างสุดได้
ก่อนอื่นเลยเราต้องมาเข้าใจกันก่อนว่าไขมันท้องล่างมันคืออะไรแล้ว ลดไขมันล่าง ทำไมมันถึงออกยากจังไขมันที่ร่างพุงหรือไขมันท้องล่างมันเป็นส่วนที่จริงๆแล้วทุกคนมีอยู่และมันเป็นบริเวณที่เอาออกยากมากที่สุดโดยบอดี้ไทด์มันจะมีผลมากๆ ว่าแนวโน้มหุ่นของเราเมื่อเราฟิตหรือว่าออกกำลังกายหุ่นของเราจะไปในแนวทางไหนนั่นเอง
ซึ่งความลับในการลดหน้าท้องล่างโดยไม่ใช่ว่ามันไม่มีวิธีที่จะเอามันออกเลยแต่เราจะบอกว่ามันไม่มีวิธีอะไรที่พิเศษเลยสำหรับการลดไขมันที่ท้องล่างหรือใครมันก็คือแฟตหรือไขมันไม่ว่าจะเป็นแฟตที่หน้าหรือว่าจะเป็นแฟตที่เหนียงแฟตที่อกแฟตที่ขาแฟตที่ก้นทุกอย่างก็คือแฟตเหมือนกันหมด
ตอนที่ไขมันของเราลดมันจะลดไปพร้อมๆกันก็คือมันจะลดไปเรื่อยๆแต่ส่วนที่เอาออกยากที่สุดก็คือท้องล่างแชทลับ ที่เราสามารถจะเบิร์นท้องล่างได้ อย่างแรกเลยก็คือ เพิ่มการออกกำลังกายหรือกิจกรรม ในการออกกำลังกายหลายคนที่ออกกำลังกาย มักจะออกกำลังกายแต่ไม่รู้ว่าแต่ละวันของเราออกกำลังกายและตัวของเราเองได้พัฒนาไปด้วยหรือเปล่า
เพราะฉะนั้นแล้วบางคนก็ชอบดันพื้นอย่างเช่น ดันพื้น 12 ครั้ง 4 เซตแล้วก็เข้าใจว่า บอดี้เวทจะทำให้กล้ามใหญ่แล้ว Fat ก็จะลดได้ดีการที่เราออกกำลังกายจำนวนครั้งดังเดิมเล่นแบบเดิมๆอยู่ตลอดเวลามันจะทำให้ร่างกายมันจำใจแล้วทำให้กล้ามเนื้อจะไม่ได้พัฒนาเพิ่มเติมอะไรขึ้นมาสักเท่าไหร่
ดังนั้นเราต้องกลับมามองที่ตัวเองก่อนว่าตัวของเรานั้นออกกำลังกายได้นานแค่ไหนวันหนึ่งได้เท่าไหร่แล้วก็เข้มข้นหรือเปล่ามีพัฒนาการหรือเปล่าหากเราดันพื้นได้ 12 ครั้ง เราก็ลองเพิ่มลิมิตของตัวเองเป็น 15 ครั้ง 20 ครั้ง หรือว่า 30 ครั้งก็เป็นการที่จะเบิร์นแคลอรี่ได้เพิ่มเติมมาก
เมื่อเราออกกำลังกายเสร็จแล้วเราก็สามารถที่จะเพิ่มการ Cardio อย่างใครว่างๆก็ออกไปเดินในตอนเช้าซักประมาณ 30 นาทีก็จะเป็นการใช้แคลอรี่แล้วก็เบิร์นพลังงานส่วนตัวได้ โดยที่ไม่ทำให้เราเหนื่อยมากหรือเราสามารถที่จะทำฮิตหรือHigh Cardio ได้ปิดท้ายซักประมาณ 7 นาที หรือประมาณ 14 นาทีเพียงเท่านี้ก็พอแล้ว ก็เป็นการเพิ่มแคลอรี่ในการเดินในแต่ละวันของเราเองซึ่งการทำแบบนี้มันก็จะทำให้ไขมันของเราลดลงเรื่อยๆ
สำหรับอย่างที่สองก็คือ การคุมอาหาร ซึ่งสิ่งนี้ต้องบอกเลยว่ามันเป็นสิ่งที่ทุกคนจำเป็นจะต้องทำพยายามอย่าไปฟังคนที่บอกว่าไม่จำเป็นต้องคุมอาหารหรอกเพราะว่าเราออกกำลังกายหนักขนาดนี้แล้วไม่ต้องไปคุมมันคนดีอยู่แล้ว
ซึ่งการทำแบบนั้นถามว่ามันทำได้หรือไม่บอกเลยว่ามันทำได้สำหรับคนที่ออกกำลังกายมาเป็นเวลา 1 ปีถึง 2 ปี เพราะว่าเขาจะมีประสบการณ์ในการเลือกอาหารนั่นเองและคำว่าคุมอาหารของเขาบางทีมันก็ไม่เหมือนกัน