Archive 2023

ลดความอ้วนกันเถอะ ลดเองได้ง่ายๆ สไลล์คนทำงานนั่งเยอะๆ 

ลดความอ้วนกันเถอะ เพื่อนๆ และสาวๆ ที่นั่งทำงานที่ออฟฟิศทั้งวันก็ดี นั่งทำงานที่บ้านทั้งวันก็ดี เชื่อว่าเผลอๆ น้ำหนักขึ้นไม่รู้ตัวเลยละ อาจจะเพราะว่าเราไม่ค่อยได้ขยับตัวแล้วดันนั่งนานๆ ด้วยนั้นละ วันนี้เราเอาวิธีการลดความอ้วนหรือลดน้ำหนัก มาฝากกัน เชื่อว่าหากยังไม่ผอมลงเลย ก็ไม่ทำให้อ้วนขึ้นแน่นอน ไปดูกันเลย 

-ดื่มชาเขียว หรือ กาแฟดำ ไม่ใส่นมและน้ำตาล

เพื่อนๆ และสาวๆ หลายๆ คนเลยที่ ติดกินขนมหรืออยากกินนู้นนี่ระหว่างการทำงานก็ดี หรือแค่เหงาปากก็ดี แนะนำเป็นอย่างยิ่งว่าให้หันมาดื่มชาเขียว ร้อน เย็น ไม่ใส่นม หรือ น้ำตาล หรือใครอยากจะดื่มกาแฟดำ ร้อน เย็น ไม่ใส่นมหรือน้ำตาลก็ได้นะ เพราะมันจะช่วยทำให้สดชื่นจากคาเฟอีน แถมยังช่วยเผาผลาญไขมันได้ และไม่ทำให้อ้วนขึ้นด้วยนะ

-ดื่มน้ำเปล่าให้มากๆ ด้วย

เพื่อนๆและสาวๆ หลายๆ คนเลยที่ไม่ชอบดื่มน้ำ แนะนำว่าการดื่มน้ำเปล่าเยอะๆ ช่วยทำให้ไม่หิว อิ่ม ผิวพรรณดี และก็ดีต่อผลรวมของระบบต่างๆของร่างกายด้วยนะ เพราว่าน้ำเป็นส่วนล่อเลี้ยงระบบต่างๆ ในร่างกายเรานั้นเอง เพราะฉะนั้นดื่มน้ำให้เยอะๆ โดยแบ่งการกินให้ถี่ๆ ไม่ดื่มที่เดียวแบบเยอะๆ นะ 

-เอาของกินรอบตัวออกให้ห่างที่สุด 

การที่เรานั่งทำงานบางทีมันก็เบื่อๆนะ หรือ เมื่อยๆ และบางครั้งก็เครียด ดังนั้นสิ่งที่เราจะรู้สึกดีก็คือการกิน และการที่เพื่อนๆ และสาวๆ มีของกินข้างๆตัวนี้ อันตรายมากๆ เลยเพราะว่าเพื่อนๆ และสาวๆ มีโอกาสที่จะหยิบมากินได้ตลอดเวลา ถ้านิดหน่อยอะไม่เป็นไรหรอก แต่ส่วนใหญ่จะเผลอจนกินเยอะเกินไปนะสิ 

-ลุกขึ้นมาขัยบร่างกาย หรือ เคลื่อนไหวร่างกายด้วย

หากในระหว่างวันที่เพื่อนๆและสาวๆ มาทำงานมีโอกาสได้เดินเยอะๆจงเดินเยอะๆ เพื่อเร่งการเผาผลาญไขมันในร่างกายเราเลยนะ แต่หากใครที่ไม่สามารถทำได้ แนะนำว่าให้เคลื่อนไหวร่างกายบ่อยๆ หรือ ขยับร่างกายเพื่อผ่อนคลายด้วยนะ

-ไม่กินของมันของทอด 

การที่เราต้องทำงานและนั่งเป็นส่วนใหญ่ โอกาสในการเผาผลาญเราจะน้อยกว่าคนที่เค้าเดินหรือใช้แรงนะ เพราะฉะนั้นอาหารที่เราต้องระวังและไม่ควรกินนั้นก็คือ ไม่กินของมัน ของทอด นะ เพราะว่าอาหารเหล่านี้ มีแคลอรี่สูงและยังมีไขมันไม่ดีแฝงมาเต็มไปหมด เพื่อนๆ และสาวๆ เห็นแล้วมั้ยละ ว่าการที่เรานั่งทำงานก็ยังมีตัวช่วยดูแลหุ่นเราได้อยู่นะ ลองทำตามกันดูสิ !

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย  เครื่องช่วยฟังแบบชาร์จหรือใส่ถ่านดีกว่า

อาหาร5ชนิดป้องกันโรคซึมเศร้า

อาการซึมเศร้าหรืออาการเครียดหงุดหงิดมันเกิดจากฮอร์โมนด้วยส่วนนึงเลยเป็นส่วนสำคัญเลยเกิดจากฮอร์โมนซึ่งฮอร์โมนตัวนี้ชื่อว่าซีโรโทนินเขาเรียกว่าเป็นสารที่เกี่ยวกับความสุขความสบายใจของเราหากมีสารตัวนี้มากๆเราจะแบบมีความสุขยิ้มแย้มดูอะไรก็ดีไปหมด

อาหาร5ชนิดป้องกันโรคซึมเศร้า นอกจากนี้สารตัวนี้ยังควบคุมความหิวอยากอาหารถ้าเรามีสารตัวนี้เราก็มักจะควบคุมความหิวได้ดีไม่กินไปเรื่อยแล้วยังทำให้นอนหลับสบายสารตัวนี้บอกเลยดีคราวนี้ตัวซีโรโทนินเป็นสารที่จะสามารถสร้างได้ในร่างกายเราแต่เราจะต้องทานสารตัวหนึ่งเข้าไปนั่นก็คืออะมิโนแอซิดที่ชื่อว่า ทริปโตเฟน นั่นเอง

เพราะฉะนั้นแล้วอาหารอะไรที่มีส่วนของ ทริปโตเฟน ผสมอยู่ก็จะทำให้ร่างกายของเราสร้าง ซีโรโทนิน มากขึ้นก็ทำให้เรามีโอกาสที่จะซึมเศร้าน้อยลงมีความสุขมากขึ้นนั่นเอง คราวนี้เรามาดูอาหารที่แนะนำอาหารจริงๆแล้วมีหลายอย่างเราก็จะแนะนำคร่าวๆแล้วกันข้อแรก อาหารประเภท นม และ ซีด

อาหารกลุ่มนี้จะมีทริปโตเฟนพอสมควรเลยก็จะได้ยินว่าถ้าดื่มนมอุ่นนมร้อนเราก็จะรู้สึกสบายผ่อนคลายแฮปปี้แล้วก็จะนอนหลับฝันดี เพราะมีสารทริปโตเฟนนี่แหละเสร็จแล้วดื่มเข้าไปก็จะเปลี่ยนไปเป็นซีโรโทนินทำให้เราหลับง่ายทำให้เราผ่อนคลายอารมณ์ดี

อาหารชนิดที่สอง ถั่วและธัญพืชต่างๆก็มีสารทริปโตเฟนอยู่พอสมควรทั้งยังมีกาใยต่างๆลดความเสี่ยงการเป็นมะเร็งควบคุมน้ำหนักได้เป็นอย่างดี

อาหารชนิดที่สามอันนี้เราคิดว่าคุณหาทานง่าย เต้าหู้แล้วกถั่วเหลือง เราชอบกินกันอยู่แล้วน้ำเต้าหู้ก็ได้มีทริปโตเฟนอยู่พอสมควรเหมือนกันใครแพ้นมวันนมถั่วเหลืองช่วยได้น้ำเต้าหู้ช่วยได้แต่แนะนำว่าให้ดื่มแบบไม่หวานมากแต่บางทีน้ำเต้าหู้นี่ใส่ธัญพืชใส่ถั่วแดงใส่ธัญพืชต่างๆลงไปมีกากใยยิ่งมีความสุข

อาหารชนิดที่สี่ ไข่ ง่ายๆหากอยากคุมน้ำหนักก็แนะนำว่าให้เป็นไข่ต้มหรือว่าไข่ลวกก็ได้แต่ว่าไข่ต้มถือว่าโอเคสุดแล้วกินอิ่มด้วยแต่ถ้าเกิดเป็นไข่ดาวก็อาจจะอ้วนนิดนึงไข่เจียวก็อ้วนมากหน่อยแบบนี้น้ำมันมันเยอะก็ถ้าจะทานก็ระมัดระวังถ้าจะใช้น้ำมันก็ใช้น้ำมันที่เป็นน้ำมันสุขภาพก็อาจจะเป็นน้ำมันรำข้าว

อาหารชนิดที่ห้าก็คือ ปลาแซลมอน ในปลาแซลมอนนี้มีทริปโตเฟนอยู่พอสมควรเลยทานแล้วรู้สึกแฮปปี้จะเห็นคนทานปลาแซลมอนมันมีความสุขมันอร่อยมันมีสารที่จะสร้างความสุขให้กับเราอยู่ทั้งยังมีโอเมก้า3เป็นกรดไขมันชนิดดีทำให้กรดไขมัมนชนิดเลวเราลดลงสุขภาพเราสมบูรณ์แข็งแรง

 

ได้รับการสนับสนุนโดย    เครื่องช่วยฟังแบบชาร์จ

3 ผักพื้นบ้านที่ช่วยลดอาการท้องผูกได้ 

 

ผักพื้นบ้านที่ช่วยลดอาการท้องผูกได้  อาการท้องผูกเป็นอาการหนึ่งที่พบได้บ่อย และยังเป็นปัญหาใหญ่สำหรับใครหลาย ๆ คนอีกด้วย เนื่องจากว่าอาการที่อาจทำให้รู้สึกอึดอัดได้ในบางครั้ง

อาจทำให้เรานั้นรู้สึกไม่สบายท้องได้ และยังอาจส่งผลให้ร่างกายของเรานั้นมีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรคได้ง่ายมากขึ้นอีกด้วย โดยเฉพาะโรคริดสีดวง ซึ่งเป็นโรคที่หลาย ๆ คนนั้นไม่อยากให้เกิดขึ้นกับตนเองสักเท่าไหร่ เพราะอาจทำให้เรายิ่งมีความทรมานนั่นเอง แต่ทว่าอาการท้องผูกเป็นอาการที่พบได้บ่อยจนส่งผลให้หลายคนนั้นหาทางออกกันไม่ค่อยเจอ

และวิธีแก้ของใครหลายคนนั้นมักที่จะไปลงเอยที่ยาระบาย ซึ่งรู้หรือไม่ว่ายาระบายหากเราใช้มาก ๆ ก็อาจส่งผลกระทบที่ไม่ดีต่อร่างกายของเราได้ อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าอาการท้องผูกจะเป็นปัญหาใหญ่แค่ไหน ปัจจุบันนี้ก็มีวิธีการมากมายในการแก้ไขปัญหานี้เพื่อลดการใช้ยาระบาย และเพื่อไม่ให้ส่งผลเสียต่อร่างกาย ดังนั้น สำหรับใครที่กำลังมีปัญหาเกี่ยวกับอาการท้องผูก วันนี้เราจะก็จะมาแนะนำอาหาร หรือผักพื้นบ้านที่สามารถช่วยในการลดอาการท้องผูกได้ ยิ่งถ้าเรารับประทานเป็นประจำขอบอกได้เลยว่า จะยิ่งดีต่อสุขภาพร่างกาย และดีต่อระบบขับถ่ายของเราด้วย จะมีผักพื้นบ้านอะไรกันบ้างนั้นไปดูกันเลย

 

ผักตำลึง เป็นผักที่สามารถหาทานกันได้ง่ายมาก ๆ แถมยังเป็นผักที่มีประโยชน์อย่างมากต่อร่างกายของเรา โดยผักตำลึงสามารถหาได้ตามรั้วบ้าน แถมยังเป็นผักที่ดูแลง่าย ประโยชน์หลากหลาย โดยคุณสมบัติของผักตำลึงนั้น นอกจากจะมีส่วนช่วยในการบำรุงสายตาของเราได้เป็นอย่างดีแล้วนั้น ยังมีส่วนช่วยในการบรรเทาอาการท้องอืด ช่วยขับสารพิษออกจากร่างกาย และที่สำคัญเลยก็คือ สามารถช่วยป้องกันอาการท้องผูกได้เป็นอย่างดีอีกด้วย ดังนั้น หากเราทานเป็นประจำ นอกจากท้องจะไม่ผูกแล้วนั้น ยังช่วยในการบำรุงกระดูก และช่วยแก้อาการวิงเวียนศีรษะได้อีกด้วย 

กระเจี๊ยบเขียว ถึงแม้จะเป็นผักที่สามารถหาทานได้ยาก แต่รู้หรือไม่ว่ากระเจี๊ยบเขียว มีประโยชน์มากมายที่สามารถช่วยให้ลำไส้ของเรานั้นทำงานได้ดีมากยิ่งขึ้น ทั้งยังช่วยในการป้องกันอาการบาดเจ็บจากโรคกระเพาะอีกด้วย ดังนั้น หากทานเป็นประจำก็จะยิ่งทำให้เรามีระบบขับถ่ายที่ดีมากยิ่งขึ้น แถมยังสามารถช่วยในการกำจัดพยาธิได้ดีอีกด้วย 

บวบ เป็นหนึ่งในผักที่สามารถหาทานกันได้ง่าย และยังสามารถปลูกทานได้เองง่าย ๆ ที่บ้าน โดยผักชนิดนี้นั้นจะมีส่วนที่สามารถช่วยการแก้อาการเจ็บคอ ช่วยในการบำรุงร่างกาย และที่สำคัญ หากเรานำมาต้มแล้วดื่มน้ำจะยิ่งส่งผลดีต่อระบบขับถ่าย ซึ่งสามารถช่วยให้ระบบขับถ่ายของเรานั้นทำงานได้ดีมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้บวบยังมีสรรพคุณอื่น ๆ ที่สามารถช่วยในการแก้อาการริดสีดวงได้อีกด้วย 

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย    เครื่องช่วยฟังตัดเสียงรบกวน

GNC Holdings ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสำหรับกีฬา

GNC Holdings ผลิตภัณฑ์เสริม คนส่วนใหญ่คงคุ้นเคยกับ GNC ร้านค้าปลีก Live Well บริษัทเป็นผู้ค้าปลีกวิตามิน เกลือแร่ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสมุนไพร ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสำหรับกีฬา และผลิตภัณฑ์ควบคุมอาหารชั้นนำระดับโลก ณ กลางปี ​​2555 มีสถานที่ทั้งหมดประมาณ 7,800 แห่ง โดยอยู่ที่ประมาณ 6,000 แห่งในสหรัฐอเมริกา ผู้ค้าปลีกมีการดำเนินงานแฟรนไชส์ใน 55 ประเทศ

แน่นอนว่าอุตสาหกรรมค้าปลีกด้านสุขภาพและความงามไม่ได้ไม่มีการแข่งขัน เนื่องจากร้านขายยารายใหญ่อย่าง CVS, Walgreen (WAG) และ Rite Aid (RAD)

ล้วนมีบทบาทสำคัญในอุตสาหกรรมนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่า GNC มีร้านค้าภายในร้านประมาณ 2,100 แห่งภายใน Rite Aid ในสหรัฐอเมริกา การแข่งขันเพิ่มเติมมาจากร้านค้าเฉพาะทางด้านสุขภาพและความงาม เช่น ร้านวิตามิน (VSI) และแน่นอนว่าผู้ค้าปลีกรายใหญ่อย่าง Wal-Mart และ Target แต่นั่นคือจุดสิ้นสุดของ GNC กับความคล้ายคลึงของคู่แข่ง

GNC รักษารูปลักษณ์สปอร์ตและชื่อเสียงที่ทันสมัย ​​ซึ่งดึงดูดและรักษาฐานลูกค้าด้านวิตามิน อาหารเสริม และโภชนาการการกีฬาที่กำลังเติบโต ฐานอายุดิจิทัลที่อายุน้อยและมีการศึกษานี้ได้พิสูจน์ตัวเองแล้วว่าเป็นลูกค้าที่เน้นการออกกำลังกายและมีความภักดีสูง ฝูงชนกลุ่มนี้ไม่เพียงแต่ผลักดันยอดขายในร้านเดิม แต่ยังช่วยให้ GNC ขยายยอดขายออนไลน์แบบทวีคูณ

ทำให้บริษัทสามารถเพิ่มรายได้โดยไม่จำเป็นต้องขยายสถานที่ค้าปลีก ที่สำคัญกว่านั้น หากคุณเจาะลึกลงไปในการขาย คุณจะพบว่า 57% ของ GNC มาจากผลิตภัณฑ์ที่เป็นกรรมสิทธิ์ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้ค้าปลีกทั่วไปของคุณไม่สามารถพูดได้

หน่วยพัฒนาผลิตภัณฑ์ของ GNC มีผู้เชี่ยวชาญกว่า 120 คน ซึ่งรวมถึงแพทย์และนักกำหนดอาหารที่ขึ้นทะเบียน ด้วย R&D ในรูปแบบเภสัชกรรม การเข้าถึงมหาวิทยาลัยใหญ่ๆ

และพิจารณาเทคโนโลยีใหม่ๆ และข้อมูลนำร่องก่อน จึงเข้าใจได้ง่ายว่า GNC สามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีคุณค่าและเป็นนวัตกรรมใหม่ที่ช่วยให้ลูกค้ากลับมาใช้บริการอีกได้อย่างไร แน่นอน บริษัททำแพ็คเกจให้สมบูรณ์โดยเน้นที่คุณสมบัติที่อาจมีขนาดเล็ก แต่มีความสำคัญต่อฐานผู้บริโภคของอุตสาหกรรม ด้วยสิ่งต่างๆ เช่น การปรับปรุงเว็บไซต์ พนักงานที่ได้รับการฝึกอบรมมาอย่างดี และแม้กระทั่งการอุทิศพื้นที่ในชั้นวาง 1 ใน 3 ให้กับการศึกษาและคำอธิบายผลิตภัณฑ์ GNC ได้เสริมความแข็งแกร่งในฐานะผู้ค้าปลีกชั้นนำและผู้ให้บริการด้านวิตามินและอาหารเสริมอื่นๆ

อย่างที่คุณคาดไว้ ธุรกิจเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ปี 2010 GNC มีประสบการณ์กับสมาชิกบัตรทองเพิ่มขึ้นเกือบ 20%, ผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ที่ไม่ซ้ำกันมากขึ้น 33% และได้รับที่อยู่อีเมลมากกว่า 75% สำหรับการแจกจ่ายโปรโมชัน ตัวเลขการเติบโตเหล่านี้เท่ากับผู้ถือบัตรทองมากกว่า 5.8 ล้านคน

ผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์มากกว่า 3 ล้านคนในแต่ละเดือน และที่อยู่อีเมลเกือบ 11 ล้านรายการ GNC มองที่จะสานต่อแนวโน้มนี้    เครื่องช่วยฟังราคาเท่าไหร่     ด้วยกลยุทธ์การเติบโตเชิงรุกทั้งในสหรัฐอเมริกาและทั่วโลก แม้ว่าบริษัทจะมองเห็นศักยภาพในการเติบโตในปัจจุบันของร้านค้า 600 – 700 แห่งในสหรัฐอเมริกา แต่แนวโน้มทั่วโลกมีแนวโน้มดีขึ้น ภูมิภาคที่มีอยู่มี SKU เพียงครึ่งเดียว

ที่ให้บริการในสหรัฐอเมริกา และตลาดใหม่ในยุโรป จีน และบราซิล ที่มีแนวโน้มว่าจะออนไลน์เร็วๆ นี้ ก็มีข้อดีมากมายสำหรับบริษัทนี้ จากทั้งหมดที่กล่าวมา GNC คาดว่าการเติบโตของรายได้ในระยะยาวจะอยู่ที่ 9-10% และการเติบโตของ EPS จะอยู่ในช่วง 18-20% ปัจจุบัน GNC ซื้อขายต่ำกว่าระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ประมาณ 14% ซึ่งแตะระดับสูงสุดเมื่อเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว และด้วยรายได้ที่เพิ่มขึ้นในสัปดาห์นี้ อาจเป็นเวลาที่ดีที่จะพิจารณาผู้นำอุตสาหกรรมรายนี้อย่างใกล้ชิด

เกี่ยวกับสุขภาพและการออกกำลังกาย

สุขภาพและการออกกำลังกาย การออกกำลังกายเป็นกุญแจสู่ชีวิตที่ยืนยาว กระตือรือร้น และสนุกสนาน มีการระบุไว้อย่างถูกต้องว่าสุขภาพคือความมั่งคั่งที่แท้จริงที่บุคคลสามารถรักษาไว้ได้ ครูกำหนดหัวข้อนี้ให้กับนักเรียนเพื่อเพิ่มพูนความรู้เกี่ยวกับการรักษาสุขภาพให้แข็งแรง และสร้างความตระหนักในหมู่คนอื่นๆ ด้วย

นอกจากนี้ยังส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการทางสุขภาพที่ดีนักเรียนจำเป็นต้องตระหนักถึงความสำคัญของการมีสุขภาพที่ดีและเหมาะสม นอกจากนี้ ในฐานะคนรุ่นต่อไป พวกเขายังสามารถมีบทบาทสำคัญในการสร้างความตระหนักรู้และการรักษาระบอบสุขภาพที่มั่นคง

การมีสุขภาพที่ดีและเหมาะสม พูดง่ายๆ ก็คือการดูแลร่างกายให้ดี เราควรจำไว้ว่าจิตใจที่แข็งแรงนั้นอยู่ในร่างกายที่แข็งแรงเท่านั้น

สุขภาพที่ดีทั้งร่างกายและจิตใจช่วยรักษาระดับพลังงานที่จำเป็นเพื่อให้ประสบความสำเร็จในชีวิต เราทุกคนต้องพยายามเพื่อให้มีสุขภาพที่ดี การปกป้องร่างกายของคุณจากการรับสารที่เป็นอันตราย

การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ การรับประทานอาหารที่เหมาะสมและการนอนหลับคือตัวอย่างที่สำคัญบางประการที่กำหนดวิถีชีวิตที่มีสุขภาพดี ความฟิตของ Aldo ช่วยให้เราสามารถทำกิจกรรมต่างๆ ได้โดยไม่รู้สึกง่วง กระวนกระวาย หรือเหนื่อยล้า

คนที่มีสุขภาพดีและเหมาะสมสามารถใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่โดยไม่มีปัญหาทางการแพทย์หรือร่างกายที่สำคัญ การมีสุขภาพที่ดีไม่ได้เกี่ยวข้องกับความเป็นอยู่ที่ดีของร่างกายเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวข้องกับความมั่นคงทางจิตใจหรือความสงบภายในของบุคคลด้วย โดยทั่วไป การรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพประกอบด้วยการรับประทานอาหารที่เหมาะสมและดีต่อสุขภาพ ซึ่งรวมถึงการรับประทานผักใบเขียวและผลไม้สด นม ไข่ แร่ธาตุ โปรตีน และวิตามินที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์

การฝึกโยคะรวมถึงการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอในกิจวัตรประจำวันของคุณยังช่วยให้คุณรักษาความฟิต ระดับน้ำตาลในเลือด และระดับภูมิคุ้มกันที่คุณต้องการ

นิสัยที่ดีต่อสุขภาพช่วยปรับปรุงรูปร่างหน้าตาของคุณ ความมั่นคงทางจิตใจ ความสามารถในการทำกิจกรรมต่างๆ ได้ดีขึ้น ซึ่งช่วยให้คุณดำเนินชีวิตโดยปราศจากความเครียด รักษาอารมณ์ที่มีความสุข มีระดับพลังงานสูง ฯลฯ

แต่ละคนควรคำนึงถึงสุขภาพของตนเองเป็นสำคัญ ไม่ควรข้ามวันใดวันหนึ่งเพื่อพยายามรักษาสมรรถภาพทางร่างกายและจิตใจ การมีความสุขเกี่ยวข้องโดยตรงกับการเพิ่มความแข็งแกร่งทางจิตใจและสุขภาพของคุณ ดังนั้นความสุขจึงถือได้ว่าเป็นผลลัพธ์เช่นเดียวกับส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตที่ดีต่อสุขภาพและเหมาะสม สุขภาพเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่บุคคลควรดูแล การดำเนินชีวิตที่มีสุขภาพดีจะนำไปสู่ความสุข ความสำเร็จ และความสำเร็จ

โดยทั่วไปแล้ว สุขภาพสามารถวัดได้จากปัจจัยหลักสามประการ ได้แก่ ร่างกาย จิตใจ และโภชนาการ สุขภาพร่างกายหมายถึงลักษณะทางกายภาพของบุคคล สุขภาพทางโภชนาการหมายถึงการมีสารอาหารที่จำเป็นในร่างกายเพื่อต่อสู้กับโรคด้วยภูมิคุ้มกัน สุขภาพจิต หมายถึง ความสามารถในบุคคลที่จะรักษาความอดทน สงบ และเยือกเย็นได้ในทุกสถานการณ์ของชีวิต

ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพถือว่ามะเร็ง เบาหวาน และปัญหาสุขภาพจิตและร่างกายอื่นๆ อีกหลายอย่าง เช่น ภาวะซึมเศร้า ทัศนคติเซื่องซึม ฯลฯ ไปจนถึงความบกพร่องในสมรรถภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของบุคคล วิถีชีวิตที่ไม่ดีต่อสุขภาพและไม่เหมาะสมของบุคคลยังส่งผลให้เสียชีวิตก่อนวัยอันควร โรคอ้วนและการขาดสมรรถภาพทางกายในคนรุ่นใหม่ทำให้เกิดโรคเบาหวาน โรคหัวใจ และปัญหาสุขภาพร้ายแรงอื่นๆ การเดิน วิ่ง ปั่นจักรยาน เล่น ว่ายน้ำ ทำสวน กระโดดเชือก ยกน้ำหนัก และโยคะเป็นกิจกรรมสำคัญที่ช่วยให้เรารักษารูปร่างและวิถีชีวิตที่ดีต่อสุขภาพ

คนที่แข็งแรงทั้งร่างกายและจิตใจจะแข็งแรงพอที่จะเผชิญทั้งขาขึ้นและขาลงของชีวิต และไม่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงที่รุนแรงของสถานการณ์ เราควรใช้เวลากลางแจ้งรับแสงแดด สูดอากาศบริสุทธิ์ และทำกิจกรรมเพื่อสุขภาพ การออกกำลังกายทำให้คุณมีพลังอยู่เสมอ

 

สนับสนุนโดย    เครื่องช่วยฟังขนาดเล็ก

ความหนาแน่นของแคลอรี่ แนวคิดที่เรียบง่ายและทรงพลัง

ความหนาแน่นของแคลอรี่เป็นเครื่องมือและแนวคิดที่ยอดเยี่ยม ซึ่งเมื่อเข้าใจแล้ว จะสามารถช่วยลดน้ำหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีสุขภาพที่เหมาะสมที่สุด เซสชันอาหารเป็นยานี้ นำโดยผู้อำนวยการด้านการแพทย์ของโครงการ McDougall และอาจารย์ที่ Kaiser Permanente Medical Group ในซานตาโรซา Anthony Lim, MD, JD, DipABLM

ความหนาแน่นของแคลอรี่ จะกำหนดความหนาแน่นของแคลอรี่และแสดงให้เห็นถึงประโยชน์ของแนวทางนี้กับผู้ป่วย เซสชันจะครอบคลุมถึง “หลุมพราง” หรือข้อผิดพลาดที่พบบ่อยที่สุดที่ผู้ป่วยทำเมื่อพูดถึงความหนาแน่นของแคลอรี่ สุดท้าย เราจะทบทวนการประยุกต์ใช้หลักการความหนาแน่นของแคลอรี่กับชีวิตประจำวันเพื่อจุดประสงค์ในการควบคุมน้ำหนักและสุขภาพที่ดีที่สุด หลังจากดูการนำเสนอโมดูลแล้ว ผู้เรียนควรจะสามารถ

ใช้หลักการโภชนบำบัดที่คำนึงถึงสุขภาพโดยรวมและน้ำหนักที่เหมาะสม สาธิตการประยุกต์อาหารเป็นยาเพื่อสุขภาพโดยรวมและน้ำหนักที่สมวัย

ทบทวนแนวคิดเรื่องความหนาแน่นของแคลอรี่และประโยชน์ของการรับประทานอาหารที่มีความหนาแน่นของแคลอรี่ต่ำ แก้ไขข้อผิดพลาดทั่วไปที่ผู้ป่วยต้องเผชิญเมื่อพูดถึงความหนาแน่นของแคลอรี่ อภิปรายเกี่ยวกับหลักการใช้ความหนาแน่นของแคลอรี่ในชีวิตประจำวัน

อาหารเป็นยา ความหนาแน่นของแคลอรี่ แนวคิดที่เรียบง่ายแต่ทรงพลังประกอบด้วยหนึ่งการบรรยายและเนื้อหา 1.25 ชั่วโมง ระยะเวลา เนื้อหา CME/CE 1.25 ชั่วโมง ข้อมูลจำเพาะ มีการดูเนื้อหาในรูปแบบดิจิทัล ผู้ใช้สามารถคลิกผ่านโมดูลแบบโต้ตอบได้ตามต้องการและทำแบบทดสอบที่เกี่ยวข้อง เนื้อหานี้สามารถดูได้บนเดสก์ท็อป แท็บเล็ต หรืออุปกรณ์เคลื่อนที่ จำเป็นต้องมีลำโพงหรือหูฟัง ระยะเวลาการอนุมัติ 16 สิงหาคม 2564 – 16 สิงหาคม 2566

การลงทะเบียน การเข้าถึงเนื้อหาออนไลน์ได้รับอนุญาตผ่านเงื่อนไขการอนุมัติซึ่งจะสิ้นสุดในวันที่ 16 สิงหาคม 2023 คำชี้แจงการรับรอง เพื่อสนับสนุนการดูแลผู้ป่วย Rush University Medical Center ได้รับการรับรองร่วมกันจาก American Nurses Credentialing Center (ANCC), Accreditation Council for Pharmacy Education (ACPE) และ Accreditation Council for Continuing Medical Education (ACCME) เพื่อให้การศึกษาต่อเนื่องสำหรับ ทีมแพทย์ Rush University Medical Center กำหนดเนื้อหาที่ทนทานต่ออินเทอร์เน็ตนี้ไว้สูงสุด 1.25 AMA PRA Category 1 Credits™ แพทย์ควรอ้างสิทธิ์เครดิตตามขอบเขตของการมีส่วนร่วมในกิจกรรมเท่านั้น

กิจกรรมนี้นำเสนอโดยไม่มีอคติและไม่ได้รับการสนับสนุนในเชิงพาณิชย์ การกำหนดเครดิต ANCC พยาบาล จำนวนชั่วโมงสูงสุดที่มอบให้สำหรับกิจกรรม CE นี้คือ 1.25 ชั่วโมงการติดต่อ Rush University Medical Center กำหนดกิจกรรม CPE ตามความรู้นี้เป็นเวลา 1.25 ชั่วโมงการติดต่อสำหรับเภสัชกร Rush University เป็นผู้ให้บริการที่ได้รับอนุมัติสำหรับการบำบัดทางกายภาพ (216.000272), กิจกรรมบำบัด, การบำบัดทางเดินหายใจ, งานสังคมสงเคราะห์ (159.001203), โภชนาการ, โสตวิทยาการพูดและจิตวิทยาโดย Illinois Department of Professional Regulation Rush University กำหนดเนื้อหาที่ยั่งยืนนี้สำหรับ 1.25 หน่วยกิตการศึกษาต่อเนื่อง Rush University กำหนดเนื้อหาที่ยั่งยืนทางอินเทอร์เน็ตนี้สำหรับ 1.25 CE credits

ในด้านจิตวิทยาความสำเร็จของกิจกรรม CME นี้ ซึ่งรวมถึงการมีส่วนร่วมในองค์ประกอบการประเมิน ช่วยให้ผู้เข้าร่วมได้รับคะแนน MOC สูงถึง 1.25 คะแนนในโปรแกรมการบำรุงรักษาการรับรอง (MOC) ของ American Board of Internal Medicine (ABIM) ผู้เข้าร่วมจะได้รับคะแนน MOC เทียบเท่ากับจำนวนเครดิต CME ที่อ้างสิทธิ์สำหรับกิจกรรม เป็นความรับผิดชอบของผู้ให้บริการกิจกรรม CME ในการส่งข้อมูลการเข้าร่วมที่เสร็จสมบูรณ์ไปยัง ACCME เพื่อวัตถุประสงค์ในการให้เครดิต ABIM MOC

AAFP ได้ทบทวน Food as Medicine: Calorie Density- A Simple But Powerful Concept และถือว่ายอมรับได้สูงถึง 1.25 Enduring Materials, Self-Study AAFP Prescribed ระยะเวลาการอนุมัติคือตั้งแต่ 17/08/2022 ถึง 17/08/2023 แพทย์ควรเรียกร้องเฉพาะเครดิตที่สอดคล้องกับขอบเขตของการมีส่วนร่วมในกิจกรรม American Board of Lifestyle Medicine ได้อนุมัติการรักษาหน่วยกิตการรับรอง 1.25 สำหรับกิจกรรมการเรียนรู้นี้

 

สนับสนุนโดย  เครื่องช่วยฟังที่เสียงรบกวนน้อยที่สุด

ก้าวกระโดดในยารักษามะเร็งที่เหมาะ

ผู้ที่เป็นมะเร็งที่รักษาไม่ได้ได้รับการออกแบบระบบภูมิคุ้มกันใหม่เพื่อโจมตีเนื้องอกของตนเอง การศึกษาเชิงทดลองเกี่ยวข้องกับผู้ป่วยเพียง 16 ราย

แต่ได้รับการขนานนามว่า “ก้าวกระโดด” และ “ทรงพลัง” แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของเทคโนโลยีดังกล่าว แต่ละคนมีการรักษาที่พัฒนาขึ้นสำหรับพวกเขาโดยเฉพาะ ซึ่งมุ่งเป้าไปที่จุดอ่อนเฉพาะในเนื้องอกของพวกเขา ยังเร็วเกินไปที่จะประเมินประสิทธิผลของการบำบัดอย่างครบถ้วน อีกทั้งมีค่าใช้จ่ายสูงและใช้เวลานาน

งานมุ่งเน้นไปที่ส่วนหนึ่งของระบบภูมิคุ้มกันที่เรียกว่า T-cells ซึ่งจะลาดตระเวนร่างกายและตรวจสอบเซลล์อื่นเพื่อหาปัญหา พวกเขาใช้โปรตีนที่เรียกว่าตัวรับเพื่อตรวจหาสัญญาณของการติดเชื้อหรือเซลล์ผิดปกติที่กลายเป็นมะเร็งได้อย่างมีประสิทธิภาพ

มะเร็งอาจเป็นเรื่องยากสำหรับ T-cells ในการตรวจหา ไวรัสแตกต่างจากร่างกายมนุษย์อย่างชัดเจน แต่มะเร็งนั้นบอบบางกว่าเพราะเป็นเซลล์ที่เสียหายของเราเอง แนวคิดของการบำบัดคือการเพิ่มระดับของ T-cells ที่ตรวจจับมะเร็งเหล่านี้ ต้องปรับให้เหมาะกับผู้ป่วยแต่ละรายเนื่องจากเนื้องอกแต่ละชนิดมีลักษณะเฉพาะ

นี่คือวิธีการทำงาน นักวิจัยได้คุ้ยเลือดของผู้ป่วยเพื่อหา T-cells ที่หายากซึ่งมีตัวรับที่สามารถดมกลิ่นมะเร็งได้ จากนั้นพวกเขาก็เก็บเกี่ยว T-cells อื่นๆ ที่ไม่พบมะเร็งและออกแบบพวกมันใหม่ ตัวรับดั้งเดิมซึ่งอาจพบปัญหาหรือการติดเชื้ออื่น ๆ

ถูกแทนที่ด้วยตัวรับจาก T-cells ที่ค้นหามะเร็ง สุดท้าย T-cells ที่ได้รับการดัดแปลงเหล่านี้จะถูกใส่กลับเข้าไปในตัวผู้ป่วยเพื่อค้นหาเนื้องอก

การแปลง T-cells ให้เป็นรูปแบบที่สามารถล่ามะเร็งได้นั้นจำเป็นต้องมีการจัดการทางพันธุกรรมอย่างมากเพื่อลบคำสั่งทางพันธุกรรมสำหรับการสร้างตัวรับเก่าและให้คำแนะนำสำหรับตัวรับใหม่

สิ่งนี้เกิดขึ้นได้จากความก้าวหน้าอย่างมากในเทคโนโลยีการตัดต่อยีน Crispr ซึ่งทำหน้าที่เหมือนกรรไกรตัดโมเลกุล ทำให้นักวิทยาศาสตร์สามารถจัดการกับ DNA ได้อย่างง่ายดาย นักวิจัยผู้พัฒนา Crispr ได้รับรางวัลโนเบลสาขาเคมีในปี 2020 การทดลองนี้เกี่ยวข้องกับผู้ที่เป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งเต้านม หรือมะเร็งปอดที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษาอื่นๆ การศึกษานี้ออกแบบมาเพื่อทดสอบความปลอดภัยและความเป็นไปได้ของเทคโนโลยี

และแสดงให้เห็นว่าเซลล์ที่ได้รับการดัดแปลงกำลังหาทางเข้าสู่เนื้องอก โรคยังคงแย่ลงเรื่อย ๆ ในผู้ป่วย 11 ราย แต่คงที่ในอีก 5 ราย อย่างไรก็ตาม จะต้องมีการศึกษาที่ใหญ่ขึ้นเพื่อหาขนาดยาที่ถูกต้องและได้ผลจริงเพียงใด ดร. Antoni Ribas หนึ่งในนักวิจัยจาก University of California, Los Angeles กล่าวว่า “นี่เป็นก้าวกระโดดในการพัฒนาวิธีการรักษาเฉพาะบุคคลสำหรับโรคมะเร็ง”

ผลลัพธ์ถูกนำเสนอในที่ประชุมของ Society for Immunotherapy of Cancer และเผยแพร่พร้อมกันในวารสาร Nature ดร.มาเนล ฮวน หัวหน้าฝ่ายบริการภูมิคุ้มกันวิทยาของ Clinic Hospital ในบาร์เซโลนา กล่าวว่านี่เป็น “งานที่ไม่ธรรมดา” และ “เป็นหนึ่งในความก้าวหน้าที่สุดในสาขานี้อย่างไม่ต้องสงสัย” เขาเสริมว่า “มันเปิดประตูสู่การใช้ [แนวทาง] เฉพาะบุคคลนี้ในมะเร็งหลายประเภทและอาจเป็นไปได้ในโรคอื่นๆ อีกมากมาย” ‘เซลล์ผู้ออกแบบ’ ย้อนมะเร็งเด็ก 1 ขวบ

รุ่งอรุณแห่งการแพทย์การตัดต่อยีน ศ.วาซีม กาซิม ผู้ออกแบบระบบภูมิคุ้มกันช่วยชีวิตที่โรงพยาบาลเกรท ออร์มอนด์ สตรีท กล่าวว่า นี่เป็น “การสาธิตที่ทรงพลังแต่เนิ่นๆ ถึงสิ่งที่อาจเป็นไปได้ด้วยเทคนิคใหม่ๆ” ดร. Astero Klampatsa จากสถาบันวิจัยมะเร็ง ลอนดอน กล่าวว่า การศึกษานี้ “สำคัญ” แต่เตือนว่า “เวลา แรงงาน และค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง” นั้น “มหาศาล”

 

สนับสนุนโดย.    เครื่องช่วยฟัง

อย่ากินเกลือมากเกินไป

เกลือมากเกินไปจะเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดความดันโลหิตสูง แนวทางแนะนำว่าเราควรมีเกลือไม่เกิน 6 กรัมต่อวัน (คนส่วนใหญ่ในสหราชอาณาจักรในปัจจุบันมีมากกว่านี้) หากคุณเคยชินกับเกลือมาก ให้พยายามค่อยๆ ลดปริมาณที่คุณมี รสชาติเกลือของคุณจะเปลี่ยนไปในที่สุด เคล็ดลับในการลดเกลือ ได้แก่ใช้สมุนไพรและเครื่องเทศแทนเกลือเพื่อปรุงรสอาหาร

จำกัดปริมาณเกลือที่ใช้ในการปรุงอาหารและอย่าเติมเกลือลงในอาหารที่โต๊ะ เลือกอาหารที่มีข้อความไม่ใส่เกลือหลีกเลี่ยงอาหารแปรรูป ซอสที่อุดมด้วยเกลือ อาหารแบบสั่งกลับบ้าน และซุปห่อที่มักมีเกลือสูงให้มากที่สุด อย่าลืมขนาดส่วนคุณอาจจะทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายอยู่มาก แต่คุณยังต้องจับตาดูขนาดส่วนอาหารของคุณ

เพราะถ้าอาหารเหล่านั้นมากไป คุณจะยังมีน้ำหนักเพิ่มขึ้น พยายามทานอาหารให้น้อยลงโดยเจตนา อย่ารู้สึกว่าคุณต้องล้างจาน อาจเปลี่ยนจานที่คุณมีในตู้ของคุณ (ซึ่งอาจใหญ่) เป็นจานขนาดกลาง ด้วยวิธีนี้คุณจะเสิร์ฟส่วนที่เล็กกว่าอย่างเป็นธรรมชาติ เติมผักและผลไม้ ขอส่วนเล็ก ๆ เมื่อรับประทานอาหารนอกบ้านหรือสั่งอาหารกลับบ้าน

คิดถึงสิ่งที่คุณกำลังดื่ม เครื่องดื่มหลายชนิดรวมทั้งเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์หลายชนิดมีแคลอรี คิดเกี่ยวกับสิ่งที่คุณกำลังดื่ม เลือกเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ที่ดีต่อสุขภาพ เคล็ดลับ: น้ำไม่มีแคลอรีและสามารถทั้งสดชื่นและมีสุขภาพดี เติมมะนาวหรือมะนาวฝานหนึ่งชิ้นลงในน้ำของคุณ เก็บเหยือกไว้ในตู้เย็นเพื่อให้เย็น

นอกจากนี้ ลองนึกถึงการเปลี่ยนกาแฟลาเต้ทั้งนมของคุณเป็นกาแฟที่ทำจากนมพร่องมันเนยหรือกึ่งพร่องมันเนย  เครื่องช่วยฟังขนาดเล็ก  ให้แอลกอฮอล์อยู่ในขอบเขตที่แนะนำ การดื่มเกินขีดจำกัดที่แนะนำอาจทำให้เกิดปัญหาร้ายแรงได้ ตัวอย่างเช่น การดื่มหนักสามารถทำลายตับ สมอง กระเพาะอาหาร ตับอ่อน และหัวใจได้ นอกจากนี้ยังสามารถทำให้ความดันโลหิตสูงได้ นอกจากนี้ แอลกอฮอล์ยังมีแคลอรีจำนวนมาก และมากเกินไปอาจทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้น แอลกอฮอล์หนึ่งหน่วยคือ 10 มล. (1 ซล.)

โดยปริมาตร หรือ 8 กรัมโดยน้ำหนัก แอลกอฮอล์บริสุทธิ์ ตัวอย่างเช่น แอลกอฮอล์หนึ่งหน่วยมีค่าเท่ากับ ครึ่งไพน์ของเบียร์กำลังปกติ ลาเกอร์ หรือไซเดอร์ (ปริมาณแอลกอฮอล์ 3-4%) หรือ สุราในผับขนาดเล็ก (25 มล.) (ปริมาณแอลกอฮอล์ 40%) หรือ ไวน์เสริมมาตรฐาน (50 มล.) เช่น เชอร์รี่หรือพอร์ต (แอลกอฮอล์ 20% โดยปริมาตร)

มีแอลกอฮอล์หนึ่งหน่วยครึ่งใน ไวน์แรงธรรมดาแก้วเล็ก (125 มล.) (ปริมาณแอลกอฮอล์ 12% โดยปริมาตร); หรือ

สุราตามมาตราฐาน (35 มล.) (แอลกอฮอล์ 40% โดยปริมาตร) ผู้ชายควรดื่มไม่เกิน 14 หน่วยต่อสัปดาห์ กระจายอย่างสม่ำเสมอเป็นเวลาหลายวันและอย่างน้อยสองวันที่ปราศจากแอลกอฮอล์ต่อสัปดาห์ ผู้หญิงควรดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไม่เกิน 14 หน่วยต่อสัปดาห์ กระจายอย่างสม่ำเสมอเป็นเวลาหลายวัน และอย่างน้อยสองวันที่ปราศจากแอลกอฮอล์ต่อสัปดาห์

สตรีมีครรภ์ คำแนะนำจากกรมอนามัยระบุว่าสตรีมีครรภ์หรือสตรีมีครรภ์ไม่ควรดื่มสุราเลย

สิ่งที่คนออทิสติกต้องรู้หากพวกเขาเป็นโรคโครห์น

เขาเป็นโรคโครห์น อาการทางเดินอาหารเป็นปัญหาสำหรับคนออทิสติกหลายคน สำหรับบางคนอาการมักเป็นปัญหา แต่สำหรับผู้ที่เป็นโรค Crohn ผลกระทบอาจรุนแรงกว่ามาก การวิจัยชี้ให้เห็นว่าปัญหาทางเดินอาหารมีประมาณ 4 เท่า แหล่งที่เชื่อถือได้มักพบในเด็กออทิสติกมากกว่าในประชากรที่เป็นโรคเกี่ยวกับระบบประสาท ในการวิเคราะห์เมตาปี 2022

แหล่งที่เชื่อถือได้ซึ่งมีผู้เข้าร่วมการศึกษาทั้งหมด 11 ล้านคน นักวิจัยพบว่ามีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นต่อโรคลำไส้อักเสบ (IBD)

ในหมู่คนออทิสติก IBD เป็นคำที่ใช้ในร่มรวมทั้งอาการลำไส้ใหญ่บวมเป็นแผลและโรค Crohn สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างโรค Crohn กับออทิสติก หากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่รักษาอาการ GI อาจนำไปสู่ปัญหาการนอนหลับที่น่าเชื่อถือ ปัญหาด้านพฤติกรรม และปัญหาทางจิต เช่น การท้าทาย การถอนตัวทางสังคม ความวิตกกังวล และความหงุดหงิด

โรคโครห์นคืออะไร โรคโครห์นเป็นโรคระยะยาวที่ทำให้ระบบทางเดินอาหารอักเสบและระคายเคือง เป็นภาวะภูมิต้านตนเองซึ่งหมายความว่าระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายโจมตีระบบทางเดินอาหารราวกับว่าเป็นผู้บุกรุก ออทิสติกคืออะไร ออทิสติกเป็นภาวะพัฒนาการทางระบบประสาทที่ทำให้เกิดความแตกต่างในวิธีที่ผู้คนตอบสนองต่อโลกรอบตัว คนออทิสติกมีปฏิสัมพันธ์และสื่อสารในรูปแบบที่แตกต่างจากคนโรคประสาท (ไม่ใช่ออทิสติก) พวกเขายังมีความสนใจเป็นพิเศษและมีรูปแบบการพูดหรือการเคลื่อนไหวซ้ำๆ

โรคโครห์นกับออทิสติกเกี่ยวข้องกันอย่างไร นักวิจัยไม่แน่ชัดว่าอะไรเป็นสาเหตุของปัญหาทางเดินอาหารในกลุ่มคนออทิสติก พันธุศาสตร์ อาหาร ปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม ยารักษาโรค และไมโครไบโอมในลำไส้อาจมีบทบาททั้งหมด ออทิสติกและโครห์นต่างก็มีความสัมพันธ์ระหว่างลำไส้และสมอง เมื่อนักวิจัยมองอย่างใกล้ชิดที่ microbiome ในลำไส้ซึ่งเป็นแบคทีเรียที่อาศัยอยู่ในทางเดินอาหารของทั้งคนออทิสติกและโรคทางระบบประสาท พวกเขาพบความแตกต่างที่สำคัญผู้เข้าร่วมที่เป็นออทิสติกมีแบคทีเรียที่อาจเป็นอันตรายมากกว่า เช่น Clostridium, Shigella และ Enterobacter ในลำไส้ของพวกเขา หลายคนยังมีแลคโตบาซิลลัสในระดับที่สูงกว่า ซึ่งเป็นแบคทีเรียโปรไบโอติกที่อาจช่วยปกป้องผู้คนจากการติดเชื้อหรือการเจ็บป่วย

ในเวลาเดียวกัน การศึกษาบางส่วนที่เชื่อถือได้ พบว่ามีจุลินทรีย์ประเภท “ดี” อื่นที่เรียกว่าบิฟิโดแบคทีเรียน้อยกว่าในทางเดินอาหารของผู้เข้าร่วมที่เป็นออทิสติก ความแตกต่างเหล่านี้อาจอธิบายอาการทางเดินอาหารบางอย่าง และอาจเชื่อมโยงกับลักษณะออทิสติกผ่านการเชื่อมต่อที่ซับซ้อนระหว่างลำไส้และสมอง นักวิจัยบางคนแนะนำว่าปัญหาทางเดินอาหารเรื้อรังที่ไม่ได้รับการรักษาในทารกและเด็กวัยหัดเดินอาจทำให้พัฒนาการล่าช้าและออทิสติกมีแนวโน้มมากขึ้นเมื่อเด็กโตขึ้น

คนอื่นคิดว่าอาจมีความสัมพันธ์แบบสองทางระหว่างสองเงื่อนไขเพื่อให้อาการที่รุนแรงมากขึ้นในเงื่อนไขหนึ่งสามารถเพิ่มความรุนแรงของอีกเงื่อนไขหนึ่งได้ จำเป็นต้องมีการวิจัยเพิ่มเติมเพื่อทำความเข้าใจการเชื่อมต่อ

 

สนับสนุนโดย.  ถ่านเครื่องช่วยฟัง

สารอนุมูลอิสระ เป็นพิษต่อสุขภาพแล้วร่างกายผลิตออกมาเพราะเหตุใด ?

สารอนุมูลอิสระ ร่างกายของเราแน่นอนว่าไม่ได้อยากผลิตสารเหล่านั้นออกมา แต่ว่ามันได้ผลที่ได้จากกรรมวิธีการเผาผลาญต่าง ๆ (Metabolism) ภายในร่างกาย คล้ายกับเขม่าควันที่เกิดจากการเผาไหม้ ควันจากท่อไอเสียรถยนต์ เป็นสิ่งที่พวกเราไม่ได้อยากให้เกิด แม้กระนั้นมันก็เลี่ยงมิได้ มันจะต้องมีจากวิธีการเผาไหม้ของเครื่องจักร 

เหมือนกับร่างกายคนภายหลังสูด Oxygen เข้าไปใช้ประโยชน์ ในกรรมวิธีเผาผลาญข้างในเซลล์ต่าง ๆ ก็จะมีของเสียเกิดขึ้น หนึ่งในนั้นก็คืออนุมูลอิสระจาก Oxygen ซึ่งร่างกายจำต้องพากเพียรกำจัดมันออกไป เพื่อให้มันทำร้ายต่อสุขภาพร่างกายต่ำที่สุด Oxygen ก็เลยมีทั้งคุณ รวมทั้งโทษ จะให้ได้ประสิทธิภาพที่ดีจำเป็นต้องได้รับในจำนวนที่พอดิบพอดี ถ้าเกิดมากจนเกินความจำเป็นก็เป็นพิษได้

ในรถยนต์ผู้สร้างพยายามคิดค้นตัวลดมลพิษที่เกิดจากการเผาไหม้ที่เรียกว่า Catalytic Converter ภายในร่างกายมนุษย์ธรรมชาติจำเป็นต้องใช้หลายขั้นตอน ใช้สารหลายตัวช่วยเหลือกัน

 ซึ่งพวกเราเรียกสารพวกนี้ว่า สารต้านอนุมูลอิสระ ร่างกายต้องให้ทำงานหนักแค่ไหนก็สามารถผลิตสารต้านอนุมูลอิสระได้ปริมาณหนึ่ง อาจน้อย หรืออาจไม่เพียงพอ  แม้กระนั้นร่างกายสามารถรับสารต้านอนุมูลอิสระจากข้างนอกได้ไม่จำกัด ทั้งยังจำพวกแล้วก็จำนวนสารต้านอนุมูลอิสระนอกร่างกาย มีจำนวนมากหลายอย่าง แม้กระนั้นทั้งสิ้นล้วนมาจากผักผลไม้ สมุนไพรเป็นส่วนมาก 

ได้แก่ วิตามินต่าง ๆ เกลือแร่บางจำพวก, สาร Carotenoid, Lycopene และอื่น ๆ อีกมากมาย ฟังดูแล้วอาจจะไม่เข้าใจ เพราะเหตุว่าชื่อแปลก ๆ เป็นภาษาวิชาการ แปลเป็นภาษาไทย ก็คือ สารที่เจอในผัก ผลไม้ทั้งหลายแหล่นั่นเอง ได้แก่ มะเขือเทศ กล้วย ส้ม มะละกอ ฟักทอง องุ่น เม็ดองุ่น ลูกเบอร์รี่ต่าง ๆ ข้าวโพด Avocado ในขมิ้นชัน ในผักใบเขียวต่าง ๆ ชาเขียว ชาสีดำ (ชาจีน)

ในพริก ในกระเทียม หัวหอม สารต้านอนุมูลอิสระกลุ่มนี้เป็นเพียงแต่แบบอย่างที่ตรวจเจอในของกินที่มั่นใจว่ามีประโยชน์ต่อสภาพทางด้านร่างกาย ในฐานะที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ เมื่อร่างกายกินเข้าไปแล้ว ก็จะไปเสริมกับที่ร่างกายทำขึ้นได้เอง เพื่อกำจัดอนุมูลอิสระที่เกิดขึ้นตลอดระยะเวลาจากขั้นตอนเผาผลาญ แล้วก็จากที่ได้รับจากข้างนอก 

ตอนนี้มั่นใจว่า อนุมูลอิสระ เป็นต้นเหตุสำคัญเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ร่างกายเสื่อม และป่วยโรคเรื้อรัง อย่างเช่น โรคเส้นเลือดหนาตัวจากไขมัน โรคสมองเสื่อม ที่อนุมูลอิสระนั้น กระทำบางอย่างกับสารโปรตีนบางประเภท กระตุ้นแล้วส่งผลให้มีการเกิดวิธีการสะสมกากโปรตีนพวกนี้ จนถึงโรคสมองเสื่อมลงเรื่อย ๆ และก็จนถึงทุกวันนี้ ยังไม่มีสารต้านอนุมูลอิสระที่สังเคราะห์ขึ้นมาใช้ในลักษณะของยา มีเพียงแค่สารสังเคราะห์เอาอย่างสารธรรมชาติมาใช้แค่นั้น ยกตัวอย่างเช่น วิตามินต่าง ๆ ฯลฯ

สารต้านอนุมูลอิสระจำนวนมาก ก็เลยยังจำเป็นต้องพึ่งจากของกินเป็นหลัก เป็นแหล่งของสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ทรงประสิทธิภาพที่สุดในตอนนี้

 

สนับสนุนโดย.  เครื่องช่วยฟังราคาเท่าไหร่