Archive มิถุนายน 2021

วิธีป้องกันผมบาง ผมขาดร่วงและแตกปลายสามารถทำตามนี้ 

สำหรับใครที่กำลังมีปัญหาหรือเจอปัญหาผมบาง ผมขาดหลุดร่วง ผมแตกปลายได้ง่าย หรือว่าเป็นบุคคลที่หนังศีรษะมีปัญหา ให้คุณมาฟังเรื่องราวเหล่านี้ที่เราจะนำมาเสนอ ว่าสาเหตุหนึ่งที่เราอาจมองข้าม นั้นมันมาจากอะไรกัน มาดูกันเลยจ๊ะ 

สิ่งหนึ่งที่ถือได้ว่าเป็นภัยเงียบที่เรา หลายๆคนอาจจะมองข้ามหรือว่าอาจจะชะล่าใจ นั่นก็อาจจะเกี่ยวข้องกับมลพิษทางอากาศ ที่มันมีองค์ประกอบไปด้วยฝุ่นควัน ละอองต่างๆรวมไปถึง ฝุ่น PM 2.5 อีกด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้มันก็คือ อนุมูลอิสระนั่นเองค่ะ 

และสิ่งเหล่านี้ที่เป็นอนุมูลอิสระมันก็จะส่งผลโดยตรงที่เกี่ยวข้องกับเซลล์ผมของเราด้วยเช่นกัน นั่นก็คือจะเกิดการอักเสบ บริเวณหนังผมและหนังศีรษะของเรา และเมื่อเซลล์บริเวณรอบสูงของเรา เกิดการอักเสบ และเกิดการเสื่อมตัวลง มันก็จะส่งผลให้รากผมของเรานั้นอ่อนแอ ทำให้ผมของเรานั้นทำการหลุดร่วงลงไป 

ซึ่งในบางทีผมเราก็บางโดยที่เราไม่รู้ตัว นอกจากนี้ยังส่งผลต่อเส้นผมของเราที่เกิดปัญหาอื่นๆยกตัวอย่างเช่นผมขาดผมเปราะหักง่าย รวมไปถึงผมแตกปลายด้วย นั่นสาเหตุของมันส่วนหนึ่งก็มาจากอนุมูลอิสระเป็นตัวก่อทำให้สารอาหารของเราไม่สามารถที่จะไปเลี้ยงเส้นผมได้ยกตัวอย่างเช่นโปรตีนนั่นเอง

วิธีการป้องกันนั่นก็คือการกินอาหารเข้าไปที่อุดมไปด้วยวิตามินซีและวิตามินอีที่สูงถือว่าเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีให้กับร่างกายของเรามากๆเลยแหละและจะส่งผลให้เซลล์ของผมของเราแข็งแรงรวมไปถึงการชะลอและลดโอกาสที่จะเสื่อมจากผลกระทบของอนุมูลอิสระที่เป็นพวกฝุ่นและควัน หรือฝุ่นละอองต่างๆและรวมไปถึง ฝุ่น PM 2.5 เป็นตัวกระตุ้นด้วยนะคะ

 และนอกจากนั้นเราก็ควรที่จะนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ นั่นก็คือควรที่จะนอนประมาณ 7 ชั่วโมงขึ้นไป เพราะมันจะเป็นการส่งผลทำให้ร่างกายของเรานั้นได้ถูกซ่อมแซม นั่นก็คือมันจะเข้าไปลดและเข้าไปช่วยการอักเสบของหนังศีรษะ หรือว่าเซลล์รากผมของเรานั่นเอง 

ซึ่งมันจะเข้าไปทำให้มันแข็งแรงมากยิ่งขึ้นๆ มันก็จะได้ลดโอกาสที่จะทำให้เส้นผมของเรานั้นเกิดปัญหา โดยไม่ว่าจะเป็นการแตกปลาย การเปาะหักง่าย และรวมไปถึงการขาดหลุดร่วงด้วยค่ะ และอีกอย่างหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน นั่นก็คือการที่เราจำเป็นจะต้องดื่มน้ำตามมากๆ นั่นก็คือควรที่จะดื่มประมาณ 2 ลิตรขึ้นไป ใน 1 วันนั่นเอง เพราะมันจะทำให้พวกเซลล์ในร่างกายทั้งหมดของเรานั้น ได้มีความชุ่มชื้นมากยิ่งขึ้น มันจึงเป็นการลดโอกาสหรือเรียกว่าเป็นการ ป้องกันไม่ให้มันเสื่อมเร็ว

 

 

สนับสนุนโดย    กติกาการเล่นหวยฮานอย

ฉลาดรู้กับ 4 เรื่องโรคเบาหวาน

เบาหวานนั้น ถือเป็นโรคที่เกิดขึ้นมากในหมู่ประชาชนไทย และเพิ่มจำนวนผู้ป่วยมากขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ว่าจะเพศไหน หรือวัยใด ก็สามารถเป็นเบาหวานกันได้ทั้งนั้น แต่จะมีสักกี่คนที่รู้และเข้าใจเกี่ยวกับโรคนี้จริง ๆ วันนี้เรามาทำความเข้าใจใหม่กับ 4 เรื่องโรคเบาหวานกันเลยดีกว่า

  1. จริงหรือไม่ ? โรคเบาหวานเป็นโรคไม่น่ากลัว ใครๆ ก็เป็นกัน

ความเป็นจริงแล้ว โรคเบาหวานเป็นต้นเหตุที่คร่าชีวิตของประชาชนไทยไปปีละราว ๆ 20,000 คน ยิ่งกว่านั้นโรคเบาหวานยังบ่งบอกถึงการเป็นโรคอื่น ๆ ได้อีกด้วย ตัวอย่างเช่น ความดันเลือดสูง โรคเส้นเลือดหัวใจ และก็พบว่าผู้ที่เป็นโรคหัวใจรวมทั้งเป็นโรคเบาหวานร่วมด้วย มีโอกาสกระตุ้นอาการหัวใจวายหรือกล้ามเนื้อหัวใจตายแบบเฉียบพลันมากยิ่งกว่าแทบผู้ป่วยโรคหัวใจที่ไม่เป็นเบาหวานร่วมด้วย นอกเหนือจากนั้นถ้าการควบคุมโรคเบาหวานไม่ดีพอ จะส่งผลให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรงได้ ตัวอย่างเช่น ตาบอด 

  1. จริงหรือไม่ ? เป็นโรคเบาหวานห้ามรับประทานอาหารหวาน หรือของกินที่มีความหวาน

ข้อเท็จจริง คือ โรคเบาหวานเกิดขึ้นได้โดยการที่สภาวะน้ำตาลในเลือดสูง และคนส่วนมากก็เลยมีความรู้สึกว่าควรจะงดเว้นของกินที่มีความหวาน หรือมีน้ำตาลมากๆ  แต่ว่าอย่างไรก็แล้วแต่ ถ้าทานอาหารที่มีคุณประโยชน์ ในปริมาณที่ถูกต้อง ร่วมกับการบริหารร่างกาย การกินผลไม้ หรืออาหารหวานก็ยังสามารถกินได้ และควรกินในปริมาณที่พอดี ๆ 

  1. จริงหรือไม่ ? เป็นโรคเบาหวานห้ามให้เลือด

ความเป็นจริงแล้วนั้น ผู้ที่ป่วยเป็นโรคเบาหวานสามารถให้เลือดได้ แต่ผู้ป่วยเบาหวานจะต้องควบคุมระดับน้ำตาลให้อยู่ในเกณฑ์ที่กำหนด และห้ามีภาวะแทรกซ้อนของโรคเบาหวาน อีกทั้งต้องขึ้นกับการตัดสินใจของเจ้าหน้าที่ที่รับเรื่องด้วยเช่นกัน

  1. จริงหรือไม่ ? โรคเบาหวานเป็นโรคของคนอ้วนเท่านั้น

สิ่งที่ถูกต้อง คือ ไม่ว่าจะอ้วน จะผอมก็สามารถเป็นโรคเบาหวานได้เหมือนกัน เพราะเหตุว่าโรคเบาหวานมีสาเหตุมากจากหลายกรณี ไม่ว่าจะเป็น จากกรรมพันธุ์ ความประพฤติปฏิบัติ ทานอาหารมีแคลอรี่สูง น้ำตาลสูง และไม่บริหารร่างกาย ความเคร่งเครียด นอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ ทั้งหมดที่กล่าวมานี้สามารถก่อให้เกิดโรคเบาหวานได้เช่นกัน ถึงแม้ว่าจากกลุ่มประชากรที่ป่วยด้วยโรคเบาหวานจะเป็นคนอวบอ้วนมากกว่าก็ตาม ด้วยเหตุว่าคนอ้วนหรือผู้ที่มีน้ำหนักตัวมากกวว่าเกณฑ์นั้นจะทานเยอะ ทานไขมัน ของหวาน และไม่บริหารร่างกาย รวมทั้งการค้นคว้าวิจัยพบว่าในคนอ้วนส่วนมากระดับการสร้างอินซูลินอาจจะอยู่ในเกณฑ์ทั่วไป หรือมากยิ่งกว่าเกณฑ์ แต่ว่าเซลล์ภายในร่างกายกลับต่อต้านอินซูลิน

โรคเบาหวาน ต้องอาศัยความเข้าใจ และความรู้ในการดูแลตนเอง เพราะหากควบคุมดูแลไม่ดีพอ อาจทำให้เกิดภาวะน้ำตาลในเลือดสูง หรืออาจทำให้ตนเองไปสู่การเจ็บป่วยที่รุนแรงได้ ดังนั้น การดูแลตนเอง บริหารร่างกาย และหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่จะทำให้เป็นโรคเบาหวานนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด  แต่หากป่วยเป็นโรคเบาหวานแล้วการดูแลควบคุมให้ดี ถูกต้อง เหมาะสมก็เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งเช่นกัน

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย    เว็บหวยหุ้นไทย 4 รอบ

จัดโครงการเที่ยวทั่วไทยเพื่อช่วยเหลือมัคคุเทศก์ที่ตกงาน

            หากพูดถึงสถานการณ์ตอนนี้ของประเทศไทยกรมแรงงานที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดในตอนนี้และยังไม่มีทีท่าว่าจะสามารถกลับมาฟื้นตัวได้เร็วในช่วงนี้ก็คือกลุ่มแรงงานมัคคุเทศก์กลุ่มแรงงานการท่องเที่ยวหรือพวกไกด์ต่างๆซึ่งปกติแล้วไกด์ในประเทศไทยก็จะเป็นการแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทยโดยจะเป็นการแนะนำให้กับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางมาเที่ยวในประเทศไทย

เพราะโดยปกติแล้วคนไทยด้วยกันไปเที่ยวเองก็ไม่จำเป็นต้องมีไกด์เพราะสามารถพูดสื่อสารกับคนพื้นเมืองได้ในภาษาไทยและสามารถศึกษาข้อมูลการท่องเที่ยวได้เองเพราะในโลกอินเตอร์เน็ตนั้นสามารถบอกได้ว่าเราไปทานร้านอาหารไหนอร่อยที่เที่ยวไหนน่าเที่ยวและมีแหล่งท่องเที่ยวไหนที่น่าสนใจที่จังหวัดอะไรบ้างแต่ถ้าเป็นต่างประเทศนั้นนักท่องเที่ยวจะไม่ค่อยรู้ข้อมูลเหล่านี้มากนักจึงจำเป็นต้องอาศัยมัคคุเทศก์หรือไกด์ในประเทศไทยเป็นคนให้ข้อมูลในการแนะนำการท่องเที่ยวนั้นเอง

แต่หลังจากที่เริ่มมีการระบาดของไวรัส covid ประเทศไทยปิดประเทศไม่ให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเที่ยวในประเทศไทยทำให้กลุ่มที่ตกงานกลุ่มแรกเลยก็คือกลุ่มไกด์และกลุ่มมัคคุเทศก์และบริษัททัวร์ที่เปิดการท่องเที่ยวภายในประเทศไทยรวมถึงการท่องเที่ยวระหว่างประเทศด้วยซึ่งปัจจุบันนี้สถานการณ์ของการระบาดของไวรัสดีขึ้นบริษัทร้านค้าต่างๆสามารถเปิดการได้ตามปกติแต่มีบริษัทที่เป็นบริษัทการท่องเที่ยวบริษัททัวร์กลุ่มกายและมัคคุเทศก์เท่านั้นที่ยังคงตกงานและไม่มีงานทำเพราะการท่องเที่ยวระหว่างประเทศยังไม่สามารถเปิดได้

เพราะฉะนั้นบริษัททัวร์ต่างๆจึงยังไม่สามารถเปิดทำงานได้เพราะถึงแม้ว่าเปิดไปก็ไม่มีนักท่องเที่ยวมาใช้บริการนั่นเองดังนั้นตอนนี้ทางด้านการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยจึงเล็งเห็นความสำคัญของไกด์ และมัคคุเทศก์ที่ยังคงต้องตกงาน จึงได้จัดโครงการขึ้นมาเพื่อให้เรามัคคุเทศก์และไกด์ต่างก็พากันลงสมัครและนำคลิปการท่องเที่ยวภายในประเทศไทยเพื่อเป็นการแข่งขันกันซึ่งจะได้รับเงินรางวัลคลิปละ 800 บาทโดยจะให้เงินรางวัลสำหรับ 6,000 บาทแรกซึ่งคนที่จะเข้าร่วมโครงการนี้ได้จะต้องมีอาชีพเป็นไกด์หรือเป็นมัคคุเทศก์

และต้องมีหนังสือยืนยันการเป็นไกด์จริงๆหรือโครงการนี้สามารถเริ่มส่งคลิปวีดีโอแนะนำการท่องเที่ยวแบบสั้นประมาณ 2 นาทีได้ตั้งแต่วันที่ 3 เดือนสิงหาคมจนถึงจะมีการปิดรับสมัครในวันที่ 16 กันยายนปีพศ2563 แล้วก็จะมีการประกาศรายชื่อคนที่ได้รับเงินรางวัลซึ่งจะมีการประกาศผ่านทางเว็บไซต์ tatguide sharing.com ใครสนใจก็สามารถที่จะไปร่วมโครงการนี้ได้แต่คุณจะต้องมีใบอนุญาตประกอบอาชีพมาแสดงโดยใบอนุญาตนั้นจะต้องถูกต้องตามกฎหมายด้วย  

     นับได้ว่าเป็นกิจกรรมเพื่อช่วยเหลือไกด์ แต่หากจะลองคิดดูดีๆ การถ่ายคลิปได้ก็ต้องเดินทางไปสถานที่นั้นๆ ซึ่งการเดินทางก็ต้องใช้เงิน ก็ไม่รู้ว่าไกด์จะได้รายได้จากโครงการนี้จริงหรือไม่ เพราะค่าคลิปที่ถ่ายน้อยนิดเดียวเอง 

 

สนับสนุนโดย    สูตรหวยหุ้นตรงๆ

ซีอีโอ Muji ไปต่อไม่ไหว แจ้งขอยื่นเรื่องล้มละลายเช่นกัน

              หากใครที่ได้เห็นคำว่า Muji  เชื่อว่าหลายคนต้องรู้จักตัวหนังสือนี้กันเป็นอย่างดี เพราะเมื่อเราไปเดินซื้อของในห้างสรรพสินค้า  เราจะต้องเห็นร้านที่เขียนคำว่า Muji เกือบทุกห้างไป และสินค้าภายในร้าน Muji นั้นก็เป็นที่นิยมของคนไทยอย่างมาเลยทีเดียวเพราะสินค้าในร้าน Muji นั้นเป็นสินค้าของแต่งบ้าน ของใช้ เครื่องเขียนทั่วไป แต่เป็นสินค้าของบริษัทญี่ปุ่น  

           สำหรับร้านค้าแบรนด์ Muji นี้ไม่ได้มีเปิดสาขาที่เมืองไทยเพียงประเทศเดียวเท่านั้น เพราะผู้บริหารของ บริษัท Muji มีการเปิดสาขา Muji เอาไว้หลายประเทศเลย ทีเดียว อย่างประเทศสหรัฐอเมริกาก็มีเช่นเดียวกัน 

           นับได้ว่าสินค้าของญี่ปุ่นนั้น เป็นสินค้าที่ได้รับการยอมรับของประชาชนทั่วโลก เลยก็ว่าได้ อย่างไรก็ตามแต่ เมื่อวันที่ 9 เดือนกรกฏาคม ปี พ.ศ. 2563  ซี่งตรงกับวันพฤหัสบดี นั้น ทางด้าน ซีอีโอ   ของบริษัทเครือ เรียวอิน เคคาขุ จำกัด  และเป็นผู้ที่ดูแลร้านค้า Muji ได้ออกมาแถลงการณ์ เกี่ยวกับสถานการณ์ของร้าน Muji ในประเทศสหรัฐอเมริกา  ว่าพวกเขาต้องมีการขอยื่นเรื่องการแจ้งขอล้มละลาย ให้กับร้าน Muji ทุกสาขาในประเทศสหรัฐอเมริกา 

            นั่นก็เพราะว่า ตั้งแต่ประเทศสหรัฐอเมริกา พบปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19   ทางด้านรัฐบาลก็ไม่สามารถที่จะควบคุมการแพร่ระบาดได้ อีกทั้งก่อนหน้านี้แนวทางแก้ไขปัญหาของรัฐบาลนั้น ก็ให้มีการชัตดาวน์ร้านค้า  ส่งผลให้ช่วงเวลาหนึ่งนั้น กิจการร้านค้าของ Muji จำเป็นต้องปิกกิจการเป็นการชั่วคราว และ การปิดกิจการชั่วคราวในครั้งนั้นก็ส่งผลกระทบรุนแรงกับทางบริษัท Muji เป็นอย่างมากเลยทีเดียว ซี่งตอนนี้ทางด้านบริษัท Muji นั้น มีหนี้สินมากว่าหนึ่งร้อนล้านเหรียญสหรัฐ  และหากว่าจะแยกเจ้าหนี้ออกมาก็มีเจ้าหน้าเกือบ เก้าร้อยเก้าสิบเก้ารายเลยทีเดียว

           และสถานการณ์การระลาดของไวรัสในสหรัฐในขณะนี้ก็ยังไม่มีวีแววว่าจะดีขึ้น อีกทั้งตอนนี้ทั่วโลกรวมถึงประเทศสหรัฐอเมริกาเองก็มีปัญหาเกี่ยวกับด้านเศรษฐกิจ  เป็นได้ยากมากที่จะสามารถทำให้บริษัทกลับมาดีขึ้นในช่วงเวลานี้ ดัง นั้น ทางด้านผู้บริหารของ Muji ที่อยู่ในสหรัฐอเมริกา จึงได้ปรึกษากัน ว่าจะทำการยื่นล้มละลาย เพื่นเป็นการช่วยเหลือบริษัทให้มีการวางแผนงานของบริษัทขึ้นมาใหม่ ยังจะใช้โอกาสนี้ลดภาระดอกเบี้ย  รวมถึงยืดระยะเวลาในการชำระหนี้ได้อีกด้วย 

             ซึ่งระหว่างทีมีการยื่นล้มละลายนี้  ทางด้านผู้บริหารของ Muji จะมีการวางแผนงาน สร้างกุลยุทธ์ทางการตลาดใหม่ เพื่อสร้างผลกำไรให้กับบริษัทให้ได้ 

            จะเห็นได้ว่าขนาดบริษัทยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่น ยังได้รับผลกระทบกับเศรษฐกิจ จนต้องหาทางออกด้วยการยื่นล้มละลาย ดังนั้นการล้มละลายที่จริงแล้วคงไม่ใช่เรื่องที่น่ากลัวมากเกินไป เพราะช่วงนี้บริษัทใหญ่ๆทั่วโลกก็ประกาศล้มละลายกันหมด

      

สนับสนุนโดย  วิธีเล่นหวยยี่กี 2 ตัว